ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นผู้แทนพระองค์ ปิดโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง ที่เรือนจำกลางชลบุรี

9 พฤศจิกายน 2563

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ที่เรือนจำกลางชลบุรี กรมราชทัณฑ์ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นผู้แทนพระองค์ ในพิธีปิดโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจ และความหวังในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และมอบใบประกาศนียบัตรผู้ที่ผ่านการอบรม โดยมีนายชาญ วชิรเดช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางชลบุรี เป็นผู้กล่าวรายงานโครงการ และอ่านรายชื่อผู้เข้ารับมอบใบประกาศนียบัตรในครั้งนี้

ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้มีการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา เพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยสามารถดำเนินการได้ในทุกเรื่อง และมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิด การฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติ ตลอดจนการแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้พลั้งพลาดสามารถพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนได้ เมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก

ปัจจุบัน การฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวังเรือนจำกลางชลบุรี กรมราชทัณฑ์ รุ่นที่ 4 มีผู้เข้ารับการฝึกรวมทั้งสิ้น 110 คน เป็นผู้ต้องขัง 100 คน และเจ้าหน้าที่ชุดครูพาทำ 10 คน โดยปฏิบัติการฝึกอบรมเป็นเวลา 14 วัน ระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม ถึง 6 พฤศจิกายน 2563 แบ่งการฝึกเป็น 3 ขั้นตอนได้แก่

ขั้นที่ 1 การอบรมพึ่งตนเองด้วยทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
ขั้นที่ 2 การแปลงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ ประกอบด้วย
- การออกแบบแนวความคิดการบริหารจัดการพื้นที่ขนาดเล็ก การประยุกต์ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ตามภูมิสังคมลงบนกระดาน
- การสร้างพื้นที่จำลอง (Table Top Exercise) และวางแผนการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เพื่อพออยู่ พอกิน พอใช้ และพอร่มเย็น
- การปฏิบัติในพื้นที่จริง มีขนาด 1 งาน หรือ 412 ตารางเมตร ตามทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ตามภูมิสังคม
ขั้นที่ 3 การสรุปและประเมินผล

โดยการฝึกอบรมได้ดำเนินการเสร็จสิ้นครบถ้วนตามหลักสูตรการฝึกแล้ว ผลการฝึกอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มีผู้สำเร็จการฝึกจำนวนทั้งสิ้น 110 คน จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา เรือนจำกลางชลบุรี สามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ ทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชนทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมได้ 

หลังจากนี้แล้ว ผู้พลั้งพลาดที่จะรับการพ้นโทษในโอกาสต่อไป จะต้องไปดำเนินการในพื้นที่ตามภูมิลำเนาของตนเอง อันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และช่วยกันพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

ที่มา: สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย (สวท.) ชลบุรี