เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2562 ณ ห้อง A-300 สถาบันไทย-เยอรมัน นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือ พพ. กระทรวงพลังงาน ร่วมกับกลุ่มบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จัดงานเสวนา “การพัฒนานวัตกรรมพลังงานกับการขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะหรือสมาร์ทซิตี้” เนื่องด้วยเห็นความสำคัญต่อแนวทางการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

นางสาวนวลจันทร์ เตชะเสริมสุขกูล รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบัน พพ. ถือเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาพลังงานทดแทน และส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน กลุ่มผู้ประกอบการโรงงาน อาคาร กลุ่มภาคขนส่ง รวมถึงภาคประชาชน เพื่อให้เกิดการพัฒนากระบวนการผลิตโดยการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะส่งผลให้เกิดการลดต้นทุนในการบริหารจัดการธุรกิจแล้ว ยังเป็นการช่วยลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ โดยใช้พลังงานสะอาด และเป็นพลังงานที่สามารถผลิตได้ในประเทศ

ทางด้านนายอัครเรศร์ ชูช่วย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จํากัด กล่าวว่า ในนามของผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมอมตะ มีความยินดีที่อมตะได้มีส่วนร่วมในการจัดงานเสวนา “การพัฒนานวัตกรรมพลังงานกับการขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมสู่เมือง Smart City” ครั้งนี้ ซึ่งเป็นเรื่องของการรณรงค์ให้ความรู้เพื่อการพัฒนา และปรับปรุงด้านการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งตรงกับแนวทางในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของอมตะ ที่ได้มุ่งเน้นการขับเคลื่อนการสร้าง AMATA Smart City ให้กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมแห่งโลกอนาคต ที่มีการผสมผสานอุตสาหกรรม ให้สามารถอยู่กับสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน โดยพัฒนาให้อมตะเป็นศูนย์กลางของการวิจัย และพัฒนา (Center of research and development) รวมถึงร่วมส่งเสริม และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ พัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะภายใต้การพัฒนา กลุ่มบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) นั้น มีแผนงานที่ชัดเจน ในด้านการพัฒนา Smart Energy หนึ่งในกลไกสำคัญที่จำเป็นต้องวางระบบการพัฒนาที่สอดรับกับเมืองอัจฉริยะ ที่มุ่งเน้นพลังงานสะอาดที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานทดแทนอื่นๆ ดังนั้น เวทีการเสวนาครั้งนี้ จึงถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะเป็นการสื่อสารเพื่อสร้างองค์ความรู้ และทิศทางของพลังงานในอนาคต อันจะนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้สอดรับกับทิศทางพลังงานของประเทศต่อไป

ที่มา: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี